วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

ไวรัสซิก้า’ มีศักยภาพในการกำจัดเซลล์มะเร็งสมอง

การปล่อยให้ ‘วายร้ายจัดการกับวายร้าย’ อาจเป็นพล็อตสุดเด๋อด๋าของภาพยนตร์ฝั่งฮอลลีวู้ด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย เชื้อไวรัสซิก้าแผลงฤทธิ์ไปเมื่อปีที่แล้วสร้างความหวั่นวิตกไปทั่วโลก เนื่องจากไวรัสทำให้สมองและพัฒนาการตัวอ่อนทารกในครรภ์มารดาเสี่ยงต่อความพิการ (microcephaly) หัวเด็กที่เกิดใหม่จะบุบเบี้ยวและมีทักษะการเรียนรู้ล่าช้า
แต่ล่าสุดทีมวิจัยพบว่า ไวรัสซิก้ามีศักยภาพกำจัดเซลล์มะเร็งสมอง (brain cancer) อย่างน่าทึ่งอย่างที่วิธีการรักษาปกติไม่สามารถทำได้ ซึ่งไวรัสซิก้ามุ่งเล่นงานสเต็มเซลล์ (เซลล์ต้นกำเนิด) เจ้าปัญหาก่อนที่มันจะลุกลามเป็นก้อนมะเร็ง
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Washington University School of Medicine ร่วมกับ University of California San Diego School of Medicine ตีพิมพ์การค้นพบในวารสาร The Journal of Experimental Medicine ยืนยันว่าไวรัสซิก้า (Zika virus) อาจเปิดประตูความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการรักษาโรคมะเร็งสมองจีบีเอม GBM (Glioblastoma multiforme) ซึ่งเป็นมะเร็งร้ายกาจ มีอัตราการตายสูง เพียงภายใน 1 ปีหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแล้ว
ปกติการรักษามะเร็งที่ใช้กันอยู่ ทั้งการใช้เคมีบำบัด (chemotherapy) และรังสีบำบัด (radiation) มีผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติ ทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบที่ไม่น่าอภิรมย์ และมีโอกาสที่เซลล์มะเร็งจะหลุดรอดจนสร้างเนื้อร้ายแห่งใหม่ได้ แต่ไวรัสซิก้าแม้มีผลเสียต่อเซลล์สมอง แต่โดยตัวมันเองมีธรรมชาติที่สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งสมองจีบีเอม จึงเป็นไปได้ที่จะใช้ไวรัสซิก้า ‘ร่วมกัน’ กับการรักษากระบวนการอื่นๆ
นักวิจัยทดลองฉีดไวรัสซิก้าไปยังมะเร็งสมองของหนูทดลองโดยตรงอย่างต่อเนื่อง พบว่าภายใน 2 สัปดาห์ก้อนมะเร็งสมองของหนูค่อยๆ มีขนาดเล็กลง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เราจะฉีดไวรัสซิก้าโดยตรงไปยังเซลล์มะเร็งเพื่อรักษามนุษย์ได้เช่นกัน ในขณะที่ทำการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งสมองออก (หากฉีดบริเวณส่วนอื่นของร่างกาย ไวรัสอาจถูกภูมิต้านทานร่างกายกำจัดไปเสียก่อน)
ขั้นตอนต่อไปทีมวิจัยจะทำให้ไวรัสซิก้ากลายพันธุ์ เพื่อให้ตอบสนองกับระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ เพราะแม้คุณจะหายจากมะเร็งสมอง คุณก็ไม่อยากจะเป็นตัวแพร่ไวรัสซิก้าไปสู่คนอื่นๆ อยู่ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น